ในยุคที่เงินดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง การแฮ็กและการเรียกค่าไถ่ด้วยซอฟต์แวร์มัลแวร์กลายเป็นปัญหาที่หลายๆ ประเทศต้องเผชิญ BlackCat เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีแนวโน้มการกระทำในลักษณะนี้ และรายงานล่าสุดเปิดเผยถึงมูลค่า 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่กลุ่มนี้เรียกเก็บจากหลายองค์กร
.
BlackCat หรือที่เรียกกันว่า ALPHV เป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการเรียกค่าไถ่ โดยการใช้ซอฟต์แวร์มัลแวร์ที่ทันสมัย เพื่อหลอกลวงและขโมยข้อมูลจากเหยื่อกลุ่มต่างๆ ที่ทำธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยมีข่าวล่าสุดที่เผยออกมาเกี่ยวกับการถูกเรียกค่าไถ่รวมเป็นเงินถึง 34 ล้านดอลลาร์ในเหยื่อหลายรายซึ่งเกี่ยวข้องกับค่าโดเมนและสินทรัพย์ดิจิทัล

การกระทำของ BlackCat นี้ส่งผลกระทบต่อทั้งองค์กรขนาดใหญ่และเล็ก โดยเฉพาะองค์กรที่ไม่มีการป้องกันข้อมูลที่ดีพอ อันเป็นสาเหตุที่ทำให้มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สหรัฐอเมริกาได้ประกาศมาตรการควบคุมและการห้ามการทำธุรกรรมทางการเงินกับกลุ่มเหล่านี้เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เหยื่อรายใหม่เกิดขึ้นและเป็นหนทางในการต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์ในวงกว้าง

ในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจ การดำเนินการรักษาความปลอดภัย และการอบรมพนักงานเกี่ยวกับวิธีการป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์และแฮ็กเกอร์ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ทันที และลดโอกาสในการสูญเสียทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การตื่นตัวในความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้ามเมื่อพูดถึงการป้องกันการโจมตีจากกลุ่ม BlackCat และกลุ่มอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน

ด้วยการรวมกลุ่มของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและธนาคารในการป้องกันการเรียกค่าไถ่และการโจรกรรมทางไซเบอร์ เราอาจเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตอันใกล้ในเรื่องการปกป้องข้อมูลและเครือข่ายของเรา
.
🚨 ปัญหาการเรียกค่าไถ่ในโลกคริปโต! 🚨 BlackCat กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่โด่งดัง ล่าสุดเรียกค่าไถ่รวมมูลค่า 34 ล้านดอลลาร์จากองค์กรต่างๆ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการโจมตีเหล่านี้ และวิธีการป้องกันความเสี่ยงในธุรกิจของคุณกันเถอะ! #BlackCat #Ransomware #Crypto #CyberSecurity
.
เพิ่มเพื่อน