เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการเปิดเผยเรื่องราวของชาวรัสเซียคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าซักเงินจำนวนมหาศาลถึง 530 ล้านดอลลาร์ในรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัลผ่าน Tether ซึ่งเป็นหนึ่งใน stablecoin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้คริปโตในกิจกรรมทางอาญา เรามาเจาะลึกเรื่องนี้กันดีกว่า!
.
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่กฎหมายได้พบข้อมูลที่เชื่อมโยงถึงการซักเงินในระดับมหาศาลผ่าน Tether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีค่าเทียบเท่ากับดอลลาร์สหรัฐอย่างหนึ่ง โดยผู้ถูกกล่าวหาคือชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียงในวงการนี้ ซึ่งการแปลงสกุลเงินดอลลาร์ไปเป็น Tether ช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างลับๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ การซักเงินนี้ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางอาญาหลายประเภท รวมถึงการค้ามนุษย์และการค้ายาเสพติด
ตามรายงาน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแผนการนี้ได้ใช้ Tether เพื่อย้ายเงินไปยังที่ต่าง ๆ โดยไม่ให้ถูกสงสัย การทำงานของ Tether ที่ไม่ต้องใช้ธนาคารของรัฐหรือหน่วยงานการเงินทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการซักเงิน ความเป็นกลางของคริปโตนั้นช่วยเสริมความท้าทายในการติดตามเงินลักษณะนี้
ในปีที่ผ่านมา การใช้ Tether ในการดำเนินการเกี่ยวกับเงินที่ผิดกฎหมายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในโลกของการลงทุนนอกระบบ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อการควบคุมทางกฎหมายในหลายประเทศ ดังนั้น ความสำคัญของการมีระบบที่เข้มงวดขึ้นในการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลก็ยิ่งเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้น
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการสอบสวนและติดตามเงินที่ถูกเคลื่อนย้ายผ่าน Tether โดยหวังว่าจะสามารถกำหนดมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านการใช้คริปโตในทางที่ไม่เหมาะสมได้ในอนาคต เรื่องราวนี้ยังคงเป็นที่จับตามองในวงการคริปโตและการบังคับใช้กฎหมายว่าจะมีผลกระทบอย่างไรต่ออุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต อีกทั้งจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ในอนาคต
.
💰💻 พบกับเรื่องราวช็อคโลก! ชาวรัสเซียถูกกล่าวหาว่าซักเงิน 530 ล้านดอลลาร์ในคริปโตผ่าน Tether! 🤯✨ มาร่วมติดตามดูกันว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลอย่างไร และทำไม Tether ถึงถูกใช้ในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายได้! 🧐🔍 #Cryptocurrency #Tether #MoneyLaundering
.
![]()