ข่าวที่น่าสนใจจากวงการบล็อกเชน เมื่อผู้ก่อตั้งของแพลตฟอร์ม Across Protocol ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการโอนเงินจำนวนมากถึง 23 ล้านดอลลาร์ไปยังบริษัทของตนเอง ซึ่งสร้างความปั่นป่วนในชุมชนคริปโต
.
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Community ของ Across Protocol ได้รับข่าวที่กระแทกใจ เมื่อผู้ก่อตั้งของโปรเจกต์นี้ถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่เหมาะสมที่อาจเกิดขึ้นกับเงินทุนของ Investor โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข้อมูลที่ปรากฏว่ามีการโอนเงินจำนวน 23 ล้านดอลลาร์ไปยังบริษัทที่พวกเขาเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นการสร้างความไม่พอใจและความไม่ไว้วางใจในวงการคริปโตและบล็อกเชน

Across Protocol เป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงในด้านการสร้างโซลูชันการข้ามสายบล็อกเชนที่มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งหวังที่จะทำให้การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างเครือข่ายต่าง ๆ สามารถทำได้อย่างราบรื่น แต่การกระทำที่ถูกกล่าวหานี้อาจทำลายความเชื่อมั่นที่ผู้ใช้งานและผู้ลงทุนมีต่อแพลตฟอร์ม

จากข้อมูลที่ได้รับ แจ้งว่ามีการทำธุรกรรมที่ถูกบันทึกซึ่งชี้ให้เห็นถึงการไหลออกของเงินทุนที่ไม่ปกติ ซึ่งตัวแทนของ Across Protocol ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้อย่างชัดเจน การกล่าวหานี้อาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในโปรเจกต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูงอยู่แล้ว

ถ้าหากข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกพิสูจน์ว่าเป็นจริง ผู้ก่อตั้งอาจต้องเผชิญกับผลทางกฎหมายที่รุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งชื่อเสียงส่วนบุคคลและองค์กร นอกจากนี้ยังส่งผลต่อผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มดังกล่าวอีกด้วย คำถามที่หลายคนสงสัยอยู่ตอนนี้คือ การตัดสินใจของทีมผู้บริหารและขั้นตอนต่อไปของโปรเจกต์จะเป็นอย่างไร? สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการกลับคืนความไว้วางใจจากชุมชนคริปโต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย ในสมัยที่ความโปร่งใสเป็นกุญแจสำคัญในการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล
.
📉 ข่าวน่าสนใจ! ผู้ก่อตั้ง Across Protocol ถูกกล่าวหาว่าโอนเงิน 23 ล้านดอลลาร์ไปที่บริษัทของตน เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงการคริปโต! ว่านี่จะเป็นจุดจบของโปรเจกต์ที่มุ่งหวังในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไม่? ติดตามรายละเอียดในบทความของเรา!
.
เพิ่มเพื่อน