ประเด็นเรื่องภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปหรือ EU กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความต้องการที่จะปรับข้อตกลงภาษีให้เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ
.
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) ได้ประสบปัญหาข้อพิพาทหลายกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าภาษีสูงที่สร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์ทางการค้า ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความต้องการที่จะทำข้อตกลงภาษีใหม่กับ EU เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯใหม่
ทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้สหรัฐฯ สามารถสร้างโอกาสการทำงานได้มากขึ้นและเคลื่อนย้ายอุตสาหกรรมกลับมาที่ประเทศ สร้างแรงกดดันให้กับอุตสาหกรรมในยุโรปต้องแข่งขันกันเพื่อที่จะไม่สูญเสียตลาดในสหรัฐฯ จริงๆ แล้วการแย่งชิงตลาดนี้อาจส่งผลต่อทั้งวิถีชีวิตของผู้คนในประเทศและการพัฒนาของอุตสาหกรรม
นอกจากนั้น การปรับเปลี่ยนภาษีและข้อตกลงการค้าไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่ยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ EU ด้วย หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาข้อตกลงที่ลงตัว อาจส่งผลให้เกิดการขึ้นภาษีสินค้าที่ส่งระหว่างกัน ทำให้ราคาสินค้าในตลาดปรับตัวสูงขึ้น และบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองเศรษฐกิจ
โดยสรุป ข้อตกลงภาษีระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และ EU อาจเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคนี้ หากสามารถหาทางออกร่วมกันได้จริง จะทำให้สหรัฐอเมริกาและยุโรปขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปในทางที่ดีขึ้นได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อธุรกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการสร้างงานและทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่มากขึ้นด้วย
.
ทรัมป์แสดงความต้องการทำข้อตกลงภาษีใหม่กับ EU เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าทำสำเร็จจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวงการค้า อ่านรายละเอียดได้ที่นี่!
.
