ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศมาตรการภาษีใหม่สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ทางการค้าที่มีความตึงเครียดระหว่างสองประเทศที่ยาวนานหลายปี
.
สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนยังคงมีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาประกาศว่าตอนนี้เขาจะมีการจัดเก็บภาษีใหม่ที่สูงขึ้นสำหรับสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ยังสำคัญต่อผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา
มาตรการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ทรัมป์ได้ดำเนินการตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการเป็นประธานาธิบดี โดยเขามุ่งหวังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและปกป้องงานในสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อลดการขาดดุลการค้ากับจีนที่ถูกมองว่ามีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในอเมริกาอย่างมาก ในการประชุมข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทรัมป์ได้กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการทำให้การค้าเป็นธรรม และการกำหนดภาษีจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับการกระทำที่ไม่ยุติธรรม”
การที่ทรัมป์เลือกที่จะใช้มาตรการนี้อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในตลาดสหรัฐ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้าจากจีน เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ การเพิ่มขึ้นของภาษีจะหมายถึงผู้บริโภคอาจต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้าทุกประเภท ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศเผชิญกับความเสี่ยง
ทั้งนี้ธุรกิจก็มีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าของรัฐบาล ซึ่งการปรับเพิ่มภาษีในครั้งนี้อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ประกอบการ ในขณะเดียวกันก็นับว่าเป็นการทดสอบการยึดมั่นในนโยบายการค้าที่รัฐบาลปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ซึ่งอาจต้องติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคตอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะเข้าใจถึงแนวโน้มในเศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ดียิ่งขึ้น
.
🚨 ข่าวด่วน! 🚨 ทรัมป์ประกาศภาษีใหม่สูงขึ้นสำหรับสินค้านำเข้าจากจีน ทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและเศรษฐกิจในประเทศ! อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ 👇
.
