ออสเตรียกำลังนำเสนอนโยบายใหม่ที่กำหนดให้ผู้ลี้ภัยทำงานในชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่มและพัฒนาทักษะของพวกเขา
.
ในขณะนี้ ออสเตรียกำลังประสบปัญหาการลี้ภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลของออสเตรียได้เสนอแผนการใหม่ที่ให้ผู้ลี้ภัยต้องเข้าร่วมในโครงการทำงานบังคับในชุมชนหรือสถานที่ต่างๆ โดยมีระยะเวลาการทำงานเฉลี่ย 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยงานเหล่านี้จะมีลักษณะเพื่องานชุมชนเช่น การดูแลเด็ก การทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ และงานช่วยเหลือในองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ต่างๆ
โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ลี้ภัยได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และยังช่วยลดภาระให้กับสวัสดิการของรัฐบาลด้วย ซึ่งออสเตรียเชื่อว่าการบังคับให้ทำงานและมีส่วนร่วมในสังคมจะส่งผลดีต่อการบูรณาการของผู้ลี้ภัย
มีการคาดการณ์ว่าการย้ายไปสู่แนวทางนี้จะมีผลกระทบในทางบวกต่อผู้ลี้ภัย โดยพวกเขาจะมีโอกาสของการทำงานในอนาคตและสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในชุมชนใหม่ ซึ่งการพัฒนาทักษะและประสบการณ์การทำงานจะทำให้พวกเขามีโอกาสสูงขึ้นในการหางานที่ดีกว่าในตลาดงาน
อย่างไรก็ตาม การทำงานบังคับนี้ก็ยังมีเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยเฉพาะในเรื่องของการทำงานโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน “การบังคับให้คนทำงานโดยไม่ให้ค่าจ้างที่เหมาะสมอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน” นักวิจารณ์กล่าว และรัฐบาลต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการดูแลสิทธิของผู้ลี้ภัยกันอย่างจริงจัง
การสร้างสมดุลระหว่างการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและการทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจของประเทศนั้นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย รวมทั้งภาคประชาสังคมและองค์กรต่างๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อทุกคนในสังคม
.
ออสเตรียเปิดตัวนโยบายใหม่ให้ผู้ลี้ภัยทำงานในชุมชน เพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่มและพัฒนาทักษะใหม่ ใครคิดว่านี่คือทางออกที่ถูกต้องหรือไม่? มาร่วมแสดงความคิดเห็นกัน!
.