ในขณะที่หลายประเทศกำลังฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 แต่เยอรมนีกลับพบว่ามีบริษัทที่ต้องล้มละลายสูงสุดในรอบ 22 ปีแล้ว
.
รายงานล่าสุดเผยให้เห็นว่าจำนวนบริษัทที่เข้าข่ายการล้มละลายในเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงปีที่ผ่านมา จำนวนบริษัทที่ประกาศล้มละลายเพิ่มขึ้นถึง 12% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้มีการล้มละลายมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2001 สาเหตุหลักของปัญหานี้มาจากอิทธิพลของสงครามในยูเครน, การเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ยังไม่คลี่คลาย

การล้มละลายของบริษัทไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกธุรกิจ แต่จำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเยอรมนีสะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ภาคการผลิตและบริการต่าง ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างใหญ่หลวง บริษัทหลายแห่งไม่มีความสามารถในการจัดการกับต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้หลายบริษัทต้องตัดสินใจที่ยากลำบากในการปลดคนงาน หรือลดการผลิตลง

นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ความไม่แน่นอนในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เงินลงทุนลดน้อยลง ส่งผลต่อความสามารถในการเติบโตของบริษัท รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กที่มีส่วนสำคัญในเศรษฐกิจ ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนสูงขึ้น บริษัทเหล่านี้พบว่าการทำกำไรยากขึ้นกว่าที่เคย

การล้มละลายของบริษัทไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้ค้าและผู้ให้บริการ แต่ยังทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม กระทบต่อการจ้างงาน และลดความเชื่อมั่นในตลาด นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจึงเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือบริษัทที่กำลังประสบปัญหา เช่น การเข้าถึงเงินทุนใหม่ หรือมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี เพื่อทำให้บริษัทกลับมายืนอยู่ได้ในระยะยาว
.
เยอรมนีเผชิญปัญหาการล้มละลายของบริษัทสูงสุดในรอบ 22 ปี สาเหตุจากสงครามในยูเครนและราคาพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทหลายแห่งไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เรามาติดตามสถานการณ์นี้กัน!
.
เพิ่มเพื่อน